5 กฎหมายสำคัญที่คุณควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

เตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน

“บ้าน” คือทรัพย์สินที่มีราคาสูงที่สุดในชีวิตของใครหลายคน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังบ้านหนึ่งหลัง มีเงื่อนไขทางกฎหมายมากมายซ่อนอยู่ ทั้งเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ สัญญา ภาษี ไปจนถึงมาตรฐานการก่อสร้าง ถ้าคุณเข้าใจกฎหมายเหล่านี้ผิดพลาดแม้เพียงข้อเดียว มันอาจทำให้บ้านในฝันของคุณกลายเป็นฝันร้ายในพริบตา

ก่อนจะก้าวเข้าสู่กระบวนการซื้อบ้านจริง เราขอพาคุณไปรู้จักกับ 5 กฎหมายสำคัญที่ทุกคนต้องรู้ เพื่อให้คุณกลายเป็น “ผู้ซื้อที่ฉลาด” และมั่นใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำไปสู่อนาคตที่มั่นคงอย่างแท้จริง

1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ว่าด้วยอสังหาริมทรัพย์)

มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

  • มาตรา 456: ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ และต้องจดทะเบียน ณ สำนักงานที่ดิน
  • มาตรา 1298: สิทธิในอสังหาริมทรัพย์ถือกำเนิดขึ้นได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อย่างเป็นทางการ
  • มาตรา 1302: กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์โอนกันได้ด้วยการจดทะเบียน

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • การวางเงินจอง การทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” (Pre-sale Agreement) เป็นเพียงการผูกพันตามสัญญา ไม่ใช่การโอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
  • หากไม่มีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน ผู้ซื้อจะไม่มีสถานะเป็นเจ้าของบ้านอย่างสมบูรณ์

ตัวอย่าง: คุณตกลงซื้อบ้านแล้ววางเงินจอง แต่หากเจ้าของบ้านนำไปขายต่อให้ผู้อื่นที่เสนอราคาสูงกว่า คุณอาจฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ แต่ไม่สามารถบังคับโอนกรรมสิทธิ์ได้ เพราะกรรมสิทธิ์ยังไม่ได้โอนอย่างถูกต้องตามมาตรา 1302

ข้อควรระวัง:

  • ควรทำ “สัญญาจะซื้อจะขาย” ให้ชัดเจน พร้อมระบุวันที่แน่นอนในการโอนกรรมสิทธิ์
  • เรียกดูเอกสารโฉนดที่ดินตัวจริง และเช็กภาระผูกพัน เช่น การจำนอง, การค้ำประกัน ก่อนวางเงินใด ๆ

2. พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543

มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

  • มาตรา 4: นิยามการจัดสรรที่ดิน
  • มาตรา 17: ผู้ประสงค์จะจัดสรรต้องยื่นขออนุญาตจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน
  • มาตรา 24: กำหนดให้ต้องจัดทำโครงการที่ได้มาตรฐาน เช่น ถนน พื้นที่ส่วนกลาง ระบบระบายน้ำ
  • มาตรา 39: โครงการต้องโอนพื้นที่สาธารณะให้รัฐ หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นดูแล

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • การจัดสรรที่ดินแบ่งแปลงเกิน 10 แปลงขึ้นไป ต้องได้รับอนุญาต
  • ถ้าไม่มีใบอนุญาตจัดสรร จะถือว่าผิดกฎหมาย และผู้ซื้อมีสิทธิยกเลิกสัญญาได้

ตัวอย่าง: ซื้อบ้านในโครงการที่ไม่ได้ขออนุญาตจัดสรรอย่างถูกต้อง พบว่าภายในโครงการไม่มีน้ำประปา ไฟฟ้า ถนนสาธารณะที่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ตามปกติ

ข้อควรระวัง:

  • ขอสำเนาใบอนุญาตจัดสรรโครงการมาตรวจสอบก่อนซื้อบ้านทุกครั้ง
  • ตรวจสอบแผนผังสาธารณูปโภคว่าเป็นของโครงการจริง หรือโอนเป็นของสาธารณะแล้ว

3. พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

  • มาตรา 21: การก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนอาคาร ต้องขออนุญาตก่อน
  • มาตรา 32–34: กำหนดเรื่องระยะร่นและระยะเว้นอาคาร เพื่อความปลอดภัยและไม่กระทบเพื่อนบ้าน
  • มาตรา 39 ทวิ: การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เช่น ติดตั้งหลังคาเพิ่ม ขยายพื้นที่ ต้องขออนุญาต

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • อาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกสั่งระงับการก่อสร้าง รื้อถอน หรือแม้แต่การห้ามใช้อาคาร
  • สำหรับโครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ต้องขออนุญาตสร้างบ้านเป็นหลัง ๆ ตามแบบที่อนุมัติไว้

ตัวอย่าง: ซื้อบ้านต่อเติมโรงรถ หรือห้องครัวเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อยื่นขอทะเบียนบ้านพบว่าไม่สามารถออกได้ จนกว่าจะรื้อถอนหรือแก้ไขให้ถูกต้อง

ข้อควรระวัง:

  • ขอสำเนาใบอนุญาตก่อสร้าง (แบบ อ.1 หรือ อ.2) มาตรวจสอบก่อนซื้อ
  • เช็กแบบแปลนบ้านจริงเทียบกับบ้านที่สร้างเสร็จ เพื่อดูว่ามีการดัดแปลงผิดกฎหมายหรือไม่

4. พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562

มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

  • มาตรา 37: กำหนดให้เจ้าของที่ดินต้องเสียภาษีรายปี
  • มาตรา 42: อัตราภาษีแบ่งตามการใช้ประโยชน์ เช่น เพื่ออยู่อาศัย, เพื่อพาณิชย์, เพื่อเกษตรกรรม
  • มาตรา 93–95: การประเมินราคาทรัพย์สิน และการคำนวณภาษีที่ดิน

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • บ้านหลังแรกที่มีมูลค่ารวมไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี หรือเสียในอัตราต่ำ
  • บ้านหลังที่สอง หรือบ้านปล่อยร้าง เสียภาษีในอัตราสูงขึ้น เช่น 0.30% หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สิน

ตัวอย่าง: มีบ้าน 2 หลัง หลังแรกอยู่เอง หลังที่สองปล่อยร้างไม่ได้ให้เช่า ต้องเสียภาษีในอัตราบ้านร้างที่สูงกว่าปกติ หลายหมื่นบาทต่อปี

ข้อควรระวัง:

  • คำนวณภาษีที่ต้องชำระในอนาคตเผื่อไว้ในแผนค่าใช้จ่าย
  • หมั่นตรวจสอบประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมธนารักษ์ทุก 4 ปี

5. กฎหมายเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายอสังหาริมทรัพย์

มาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

  • มาตรา 368: หลักทั่วไปเกี่ยวกับสัญญา
  • มาตรา 369: การกำหนดเงื่อนไขของคู่สัญญา
  • ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง สัญญาจะซื้อจะขายบ้านจัดสรร พ.ศ. 2543

รายละเอียดเพิ่มเติม:

  • ต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนครบถ้วน เช่น รายละเอียดโฉนดที่ดิน ลักษณะสิ่งปลูกสร้าง วันส่งมอบบ้าน กำหนดโอนกรรมสิทธิ์
  • ห้ามกำหนดเงื่อนไขที่เอาเปรียบผู้บริโภค เช่น ริบเงินจองเต็มจำนวนโดยไม่ให้โอกาสผู้ซื้อแก้ไขผิดนัด

ตัวอย่าง:
สัญญาซื้อขายที่กำหนดว่าผู้ซื้อผิดนัด 1 วันต้องเสียค่าปรับ 20% ของมูลค่าบ้าน ถือเป็นเงื่อนไขเอาเปรียบผู้บริโภค สามารถร้องเรียนหรือฟ้องศาลเพิกถอนได้

ข้อควรระวัง:

  • อ่านสัญญาทุกบรรทัด โดยเฉพาะเรื่องเงินจอง เงินดาวน์ กำหนดเวลาโอน และการคืนเงิน
  • หากพบเงื่อนไขไม่เป็นธรรม ควรเจรจาขอแก้ไขสัญญาก่อนเซ็น

สรุป

การรู้กฎหมายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเกินไป หากคุณเข้าใจหัวใจสำคัญของกฎหมายแต่ละฉบับที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านจริง ๆ ความรู้เหล่านี้จะกลายเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ ช่วยให้คุณสามารถซื้อบ้านได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และไม่ถูกเอาเปรียบในภายหลัง หากพบข้อสงสัยหรือเอกสารที่ไม่แน่ใจในกระบวนการซื้อบ้าน อย่าลังเลที่จะปรึกษาทนายความ หรือที่ปรึกษากฎหมายอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ เพื่อช่วยตรวจสอบสิทธิและเอกสารให้เรียบร้อยก่อนตัดสินใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายบริการลูกค้าวิสต้าวิลล์

บทความใหม่ล่าสุด